ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบ TPAT
TPAT เป็น การสอบวัดความถนัดวิชาชีพ หรือ TPAT มีชื่อย่อมาจาก. Thai Professional Aptitude Test เป็นระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยรูปแบบใหม่จากทางที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ทปอ. เพื่อลดความซ้ำซ้อนของวิชา โดยวิชาที่ใช้สอบในแต่ละสนาม จะมีทั้งหมดทั้งสิ้น 5 วิชา ครอบคลุมทั้งความถนัดแพทย์ ความถนัดวิศวกรรม ความถนัดทางสถาปัตย์ ความถนัดวิชาชีพครู และความถนัดทางศิลปกรรม คะแนนสอบขะอยู่ที่เต็ม 100 คะแนน
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบ TGAT
TGAT เป็นการสอบวัดความถนัดทั่วไป ย่อมาจาก Thai General Aptitude Test ข้อสอบในส่วนที่ 1 คือการสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication) โดยจะมีทั้งหมด 3 part
คือ TGAT Part 1 ทักษะการพูดและการอ่าน TGAT Part 2 ความสามารถทางภาษาและเหตุผล ความสามารถทางตัวเลขและความสามารถทางมิติสัพันธ์ และ TGAT Part 3 สมรรถนะการทำงาน ซึ่งการสอบรูปแบบใหม่นี้จะมีความหลากหลายที่ต่างไปจากการสอบเดิม ซึ่งแน่นอนว่า น้อง ๆทุกคนอาจจะยังไม่ชินกับการสอบนี้เพราะยังไม่เคยมีใครได้สอบมาก่อน เราจึงต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าน้อง ๆ ม.ปลายทุกคนต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่อย่ากังวลไปนะมันไม่ยากอย่างที่คิดพี่ mega พร้อมช่วยน้อง ๆ เสมอหากพร้อมแล้วไปเริ่มที่หัวข้อถัดไปกันได้เลยย
TPAT1 มีวิชาสอบอะไรบ้าง และสอบที่ไหน เช็คตารางได้ที่ด้านล่างนี้เลยย
ปฏิทินการสอบ และ เวลาสอบ
วิชา TPAT2,TPAT 3.TPAT 4,TPAT 5 จะมีเวลาสอบวิชาละ 3 ชั่วโมง พี่ Mega ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง น้อง ๆ หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบข้อมูลหรือรู้จัก TPAT 4 กับ TPAT 5 มากนัก ซึ่ง TPAT4 คือ การสอบความถนัดสถาปัตยกรรม และ TPAT 5 คือ การสอบความถนัดครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ ที่นี้น้อง ๆ สามารถดูข้อมูลตารางเกี่ยวกับปฏิทินการสอบและรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ภาพด้านล่างนี้เลย
การสอบสามารถเลือกสอบได้ ว่าจะสอบแบบ CBT หรือ PBT และทั้งสองอย่างนี้มันคืออะไรหละ ? และต่างกันอย่างไร CBT vs PBT
1.Paper Based Test (PBT) คือการเลือกสอบด้วยกระดาษ โดยมีโรงเรียนเป็นสนามสอบ สำหรับการสอบ PBT สามารถรู้คะแนนได้หลังการสอบประมาณ 1 เดือน ช้าการเการเลือกสอบแบบ CBT
2.Computer Based Test (CBT) คือการเลือกสอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นสนามสอบ ซึ่งจะมีให้ทดลองสอบก่อนสอบจริง โดยการสอบผ่านคอมพิวเตอร์ หรือ (CBT) : สอบที่สนามสอบของมหาวิทยาลัย (ธรรมศาสตร์ รังสิต) ในส่วนของข้อดีของการสอบ CBT คือน้อง ๆทุกคน สามารถทราบผลคะแนนสอบได้หลังจากการสอบภายใน 3 วัน แต่ว่าที่นั่งสำหรับการสอบ CBT มีจำนวนจำกัด น้อง ๆ ม.ปลาย ที่อยากสอบจึงต้องรีบสมัครให้ไว
ที่นี้อย่างที่เกริ่นมา น้อง ๆ ที่กำลังจะสอบในปี 66 นี้สามารถเลือกสอบ PBT หรือ CBT ได้ตามความสมัครใจ โดย TGAT/TPAT 2-5 มีให้เลือกสอบทั้ง2 แบบ คือแบบ PBT (สอบด้วยกระดาษ) และ CBT (สอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์) ยกเว้น TPAT1 จะมีแค่ PBT (สอบด้วยกระดาษ) ค่าสมัคร วิชาละ 140 บาท เลือกการสอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ สอบด้วยกระดาษตามความสมัครใจ (เลือกสนามสอบแบบเรียงลำดับ 5 ลำดับ) แต่หากในส่วนของ A-Level จะสอบแบบ PBT (สอบด้วยกระดาษ) เท่านั้น และจะมีค่าสมัครสอบอยู่ที่ วิชาละ 100 บาท
สุดท้ายแล้วแม้ การเลือกสอบไม่ว่าจะ CBT หรือ PBT จะมีวิธีการสอบที่แตกต่างกันแต่เป็นแบบทดสอบเดี่ยวกัน จึงไม่มีความแตกต่างด้านคะแนนสอบเพราะเกี่ยวกับแค่ประเภทที่เลือกในการใช้สอบเท่านั้น เพราะยังไงนักเรียน ม.ปลาย 66 ทุกคนทั่วประเทศ จะต้องเข้าสอบในวันเวลาเดียวกันอยู่แล้ว มาถึงตรงนี้พี่ mega อยากจะให้กำลังใจน้อง ๆ และบอกน้อง ๆว่า การสอบรูปแบบใหม่จะใกล้เข้ามาอีกไม่นานแล้ว จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ในการทำข้อสอบ การฝึกฝน การทบทวนอย่างรอบคอบ รวมถึงการเตรียมความพร้อมที่ดี ถ้าหากน้อง ๆ ไม่รู้ว่าตัวเองมีความพร้อมแค่ไหน หรือหากมีจุดอ่อนในด้านไหน จะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรในการสอบ TGAT TPAT และไม่รู้ว่าแนวข้อสอบเป็นอย่างไร พี่ mega อยากเชิญชวนน้อง ๆ ลองมาเรียนที่สถาบันกวดวิชาของเราดูนะ ที่ megastudy ชั้น 14 SIAM-SCAPE เรามีคุณครู Tutor ระดับประเทศที่ติวเข้มกวดวิชาให้เด็กเตรียมสอบหลายคน สอบติดมานับไม่ถ้วนอีกทั้งครูของเรา ยังมีเทคนิคและสกิลมากมายที่พร้อมสอนใหน้อง ๆ ม.ปลาย ไปจนถึง การสอบระดับชั้น ม.ต้น และ ประถม เข้าใจได้ง่ายในเวลาอันสั้น สามารถสอบเก็บคะแนนได้เต็ม ไม่ว่าจะสอบเข้า มหาวิทยาลัยดัง สอบปลายภาค สอบกลางภาค หรือแม้แต่ สอบวัดระดับความรู้ ก็สามารถช่วยน้อง ๆได้ทุกสถานการณ์ ที่สำคัญราคาคอร์สเราไม่แพง มีความคุ้มค่าและคุณภาพ หากน้องๆ สนใจสามารถตดตามเราได้นะ พวกเรารอให้คำแนะนำกับน้อง ๆ อยู่นะ
