ทำความรู้จักหลักสูตรการ ของ เด็กสายวิทย์ ในระดับมัธยม
หลักสูตรการศึกษาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะถูกแบ่งแยกออกเป็นสายการเรียน ที่หลายคนเรียกกันว่า เด็กสายวิทย์ และเด็กสายศิลป์ นั่นหมายความว่ามีการแบ่งห้องเรียนออกเป็นสาขาวิชา ประกอบไปด้วย ห้องเรียนวิทย์ - คณิต , ห้องเรียนคณิต - อังกฤษ , ห้องเรียนภาษาจีน , ห้องเรียนภาษาญี่ปุ่น , หรือห้องเรียนไทย - สังคม นอกจากนี้บางโรงเรียนอาจจะยังมีเพิ่มเติมมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับหลักสูตรการเรียนการสอนของแต่ละโรงเรียน สำหรับน้อง ๆ ที่อยู่ในช่วงวัยมัธยมศึกษาตอนต้น ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกสายการเรียนมัธยมปลาย ห้องไหนดี ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า หลักสูตรการเรียนแต่ละห้องมีความแตกต่างกัน โดยจะเน้นหนักไปทางวิชาประจำ ยกตัวอย่างเช่น หากน้อง ๆ เลือกโรงเรียนในสายการเรียนวิทย์ - คณิต ก็จะต้องเจาะลึกในเนื้อหาของทั้ง 2 รายวิชานี้มากกว่าห้องเรียนอื่นๆ
ดังนั้นการเลือกสายการเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะต้องคำนึงถึงทักษะความสามารถที่ตัวเองมี และคิดว่าตัวเองจะสามารถพัฒนาต่อเนื่องไปได้อีกด้วย เพราะในระหว่างการเรียนไม่สามารถที่จะย้ายห้องเรียนได้ เพราะฉะนั้นจะต้องศึกษารายละเอียดหลักสูตรการเรียนให้รอบคอบ และเหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพื่อที่จะสามารถพัฒนาทักษะความรู้ให้ต่อยอดไปถึงระดับชั้นอุดมศึกษาได้
ความเหมือน และความแตกต่างของ เด็กสายวิทย์ กับการเรียนสายศิลป์
น้อง ๆ รู้หรือไม่ว่าการเป็น เด็กสายวิทย์ กับเด็กสายศิลป์ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร บางคนมองว่าเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเหมือนกัน เนื้อหาการเรียนก็คล้ายกัน แต่จริงๆแล้วทั้ง 2 สาย มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะมุ่งเน้นพัฒนาทักษะความรู้ทางวิชาการในแต่ละรายวิชาที่แตกต่างกัน เพื่อให้น้อง ๆ มีทักษะความรู้พื้นฐาน ที่สามารถนำไปต่อยอดในระดับมหาวิทยาลัยได้ เนื่องจากหลักสูตรการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ก็มีกฎเกณฑ์ในการรับสมัครนักศึกษา ที่ตรงกับสายการเรียน ยกตัวอย่างเช่น คณะแพทย์ศาสตร์ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่ารับเฉพาะนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในสายการเรียนวิทย์-คณิต เท่านั้น หรือคณะมนุษยศาสตร์ รับเฉพาะนักเรียนในสายการเรียน ศิลป์ภาษา เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้ความรู้พื้นฐานทักษะทางด้านภาษาต่างประเทศ
เอาเป็นว่าถ้าน้อง ๆ ที่กำลังอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กำลังมองหา สายการเรียนมัธยมปลาย อย่าลืมพิจารณาทักษะความรู้พื้นฐานของตัวเองที่มีอยู่ในปัจจุบัน และคิดว่าจะสามารถพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่อง เลือกเรียนในสายที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ก็จะทำให้น้อง ๆ มีโอกาสประสบความสำเร็จได้
อยากเป็น เด็กสายวิทย์ ในชั้นมัธยมปลาย ต้องเตรียมตัวอย่างไร
กระแสนิยมของการเรียนใน สายการเรียนมัธยมปลาย ที่มาแรงที่สุด คงหนีไม่พ้นการเป็น เด็กสายวิทย์ ซึ่งสาขาวิชานี้สามารถที่จะแตกแขนงการเรียนในระดับอุดมศึกษาได้หลากหลายสาขา บางคนมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นหมอ หรือทำงานทางด้านการแพทย์ รวมไปถึงการเป็นวิศวกร ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นจะต้องเรียนสายการเรียนวิทย์-คณิตในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เรามาลองดูกันว่าถ้าอยากจะเรียนในสายนี้ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- เตรียมสมองให้พร้อมกับการจำสูตร เด็กสายวิทย์ จะต้องจำสูตรเยอะมาก ทั้งสูตรของวิชาคณิตศาสตร์และสูตรของวิชาวิทยาศาสตร์
- มีความพร้อมทักษะพื้นฐานของรายวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ อยากเป็น เด็กสายวิทย์ ต้องมีความรู้พื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะเนื้อหาในระดับมัธยมปลายจะลงลึกกว่าระดับมัธยมต้นมาก
- เตรียมใจให้พร้อมสำหรับการสอบแข่งขัน สำหรับ เด็กสายวิทย์ จะมีการสอบอยู่บ่อยครั้ง และมีผู้เข้าสอบแข่งขันจำนวนมาก ดังนั้นจะต้องเตรียมใจให้พร้อมสำหรับการรับแรงกดดันต่าง ๆ
- หมั่นทบทวนเนื้อหาความรู้อยู่เสมอ ถ้าอยากเป็น เด็กสายวิทย์ จะต้องหมั่นทบทวนเนื้อหาความรู้หลังเลิกเรียนอยู่เสมอ เพราะเมื่อเข้าสู่ในช่วงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะได้มีความเคยชินกับการทบทวนเนื้อหาหลังเลิกเรียน
- มีความสนใจที่อยากจะหาประสบการณ์ความรู้ใหม่ๆ ลักษณะนิสัยที่โดดเด่นของการเป็น เด็กสายวิทย์ คือการค้นหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะจากสถาบันกวดวิชา หรือการค้นคว้าด้วยตัวเอง ถือว่าเป็นลักษณะนิสัยที่สำคัญของเด็กสายนี้เลย
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเข้าเป็น เด็กสายวิทย์ ซึ่งเป็นสายการเรียนยอดนิยมในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย บอกเลยว่าน้อง ๆ ทุกคนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่หวังเอาไว้ได้ เพียงแต่ต้องมีความพยายามและมันใฝ่รู้ใฝ่เรียนอยู่เสมอ หากใครที่วางแผนเอาไว้แล้ว ในเรื่องของการเลือก สายการเรียนมัธยมปลาย ก็อย่าลืมพัฒนาทักษะความรู้ทางวิชาการให้พร้อมสำหรับการสอบเข้าระดับมัธยมปลาย และถ้าอยากได้รับเทคนิคดี ๆ ในการทำข้อสอบ ที่จะทำให้น้อง ๆ ประสบความสำเร็จ สามารถเข้ามาปรึกษาพี่ ๆ ใน megastudy ได้เลย รับรองว่าไม่ว่าจะเป็นสายการเรียนวิทย์ - คณิต หรือสายศิลป์ภาษา ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
