ทำ TGAT อย่างไรให้ทันเวลา
โครงสร้างข้อสอบ TGAT1
ทักษะการพูด (Speaking Skill) (30 ข้อ 50 คะแนน)
1) การถาม–ตอบ (Question-Response)
จำนวนข้อคำถาม (10 ข้อ)
ระดับข้อสอบ (ง่าย 2 ข้อ / กลาง 6 ข้อ / ยาก 2 ข้อ)
2) เติมบทสนทนาแบบสั้น (Short conversations) จำนวน 3 บทสนทนา
จำนวนข้อคำถาม (3 – 4 ข้อ/บทสนทนา รวม 10 ข้อ)
3) เติมบทสนทนาแบบยาว (Long conversations) จำนวน 2 บทสนทนา
จำนวนข้อคำถาม (5 ข้อ/บทสนทนา รวม 10 ข้อ)
ทักษะการอ่าน (Reading Skill) (30 ข้อ 50 คะแนน)
1) เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ (Text completion) จำนวน 2 บทความ
จำนวนข้อคำถาม (7-8 ข้อ/บทความ รวม 15 ข้อ)
ระดับข้อสอบ (ง่าย 3 ข้อ / กลาง 9 ข้อ / ยาก 3 ข้อ)
2) อ่านเพื่อจับใจความ (Reading comprehension) จำนวน 3 บทความ หมายเหตุ : บทความทั่วไปที่ใช้ในการสื่อสาร มีจำนวนคำประมาณ 100– 200 คำ
จำนวนข้อคำถาม (5 ข้อ/บทความ รวม 15 ข้อ)
ระดับความยากง่ายของข้อสอบทั้งฉบับ
ระดับง่าย 20% (12 ข้อ)
ระดับปานกลาง 60% (36 ข้อ)
ระดับยาก 20% (12 ข้อ)
ประเภทข้อสอบ ปรนัย (4 ตัวเลือก)ระยะเวลาที่ใช้สอบ 60 นาที
โครงสร้างข้อสอบ TGAT2
สมรรถนะการคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking) 80 ข้อ
1) ความสามารถทางภาษา2) ความสามารถทางตัวเลข3) ความสามารถทางมิติสัมพันธ์4) ความสามารถทางเหตุผล
ประเภทข้อสอบ ปรนัย (5 ตัวเลือก)ระยะเวลาที่ใช้สอบ 60 นาที
โครงสร้างข้อสอบ TGAT3
1) การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม (15 ข้อ)
1.1 การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical thinking) ความเข้าใจในการกำหนดวิธีการรวบรวมประเด็น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีหลักการในการสรุปผลการวิเคราะห์และแยกแยะข้อมูลที่ได้รับออกเป็นปัจจัย
ย่อย ๆ เช่น สาเหตุ ผลลัพธ์ ผลกระทบ ข้อเสนอแนะ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น1.2 การแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ (Professional problem solving) ความสามารถในการวิเคราะห์
ปัญหาหรือเล็งปัญหา พร้อมทั้งลงมือจัดการกับปัญหานั้น ๆ อย่างมี ข้อมูล มีหลักการ และสามารถนำ
ความเชี่ยวชาญ หรือแนวคิดในสายวิชาชีพมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ1.3 ความคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative thinking) การนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ทางเลือก สินค้า
และบริการรูปแบบใหม่ พร้อมทั้งการปรับเปลี่ยน กลยุทธ์ นโยบาย และรูปแบบการดำเนินงานให้เหมาะสม
กับสภาพแวดล้อม รวมถึงการพูดจูงใจผู้อื่น นำเสนอความคิดและรูปแบบของสินค้า บริการ และวิธีการ
ดำเนินงานรูปแบบใหม่
2) การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน (15 ข้อ)
2.1 การระบุปัญหา (Identifying problems) ประกอบด้วย ทำความเข้าใจบริบทแวดล้อม การระบุและทำ
ความเข้าใจปัญหา การมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องในการระบุปัญหา2.2 การแสวงหาทางออก (Generating and selecting solutions) ประกอบด้วย การสร้างและหา
ทางเลือก และการประเมินทางเลือกที่เหมาะสม2.3 การนำทางออกไปแก้ปัญหา (Implementation) ประกอบด้วย การปฏิบัติตามแผน และการปรับ
เปลี่ยนตามความเหมาะสม2.4 การประเมินทางออกเพื่อการพัฒนาปรับปรุง (Evaluation) ประกอบด้วย เก็บข้อมูลจากการนำ
ทางออกไปลองใช้ และสรุปผลจากการนำทางออกไปลองใช้
3) การบริหารจัดการอารมณ์ (15 ข้อ)
3.1 ความตระหนักรู้ตนเอง (Self awareness) การรับรู้ ควบคุมสภาพอารมณ์ และทัศนคติ เพื่อรักษา
อารมณ์ และประสิทธิภาพของตนเอง แม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดหรือมีภาระสูง มีความตระหนักถึง
จุดแข็งของตนเอง รวมถึงจุดที่ต้องพัฒนา โดยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง3.2 การควบคุมอารมณ์และบุคลิกภาพ (Personality and emotional control) ความสามารถใน
การแสดงออก ทางสีหน้า ท่าทาง และอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม เมื่อต้องเผชิญกับบุคคล ลักษณะงาน
และสถานการณ์ที่ตึงเครียด รวมถึงการให้คำปรึกษา แนะนำและสอนผู้อื่น ให้ควบคุมอารมณ์และ
บุคคลิภาพได้อย่างเหมาะสม
3.3 ความเข้าใจผู้อื่น (Interpersonal understanding) ความเข้าใจความต้องการ ความกังวล และ
ความรู้สึกของผู้อื่น ทั้งสิ่งที่แสดงออกและไม่แสดงออก และความสามารถในการตอบสนอง และให้
ความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม และเท่าเทียมกัน
4) การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม (15 ข้อ)
4.1 การมุ่งเน้นการบริการสังคม (Service orientation) การคิด และทำสิ่งต่าง ๆ โดยมีความต้องการ
ของสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ในใจเสมอ โดยมุ่งเน้นการศึกษา และทำความเข้าใจความต้องการ
ต่าง ๆ แสดงถึงความมุ่งมั่นต้องการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างแท้จริง พร้อมพัฒนาและ รักษาความสัมพันธ์
ที่ดีอย่างยั่งยืน
4.2 จิตสำนึกและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental responsibility) การมีจิตสำนึก
ตระหนักให้ความสำคัญ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีความมุ่งมั่นและทุ่มเทที่จะ
อนุรักษ์ และรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชนให้น่าอยู่ ตลอดจนเข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน
หรือร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสังคม และสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างเต็มที่ เพื่อเกิดประโยชน์
ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมโดยรวม
4.3 การสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของท้องถิ่น (Creating local benefits) ความสามารถในการคิดค้น
ออกแบบ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่แปลกและแตกต่างไปจากเดิม โดยการมุ่งเน้นพัฒนาและสร้างสรรค์
สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ในระยะยาว และยั่งยืนให้แก่ประชาชน พื้นที่ หรือท้องถิ่นที่รับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม
ประเภทข้อสอบ ปรนัย (4 ตัวเลือก)เพื่อวัดทัศนคติ 4 ระดับ ทุกคำตอบจะมีคะแนนอยู่ในช่วงระหว่าง 0-1 คะแนนการตอบคำถาม มี 2 แบบ คือ
1) เลือกตอบตัวเลือกเดียว2) เลือกตอบหลายตัวเลือก
ระยะเวลาที่ใช้สอบ 60 นาที
พี่ๆคอยให้คำปรึกษาพร้อมแก้ไขปัญหาในทุกเรื่องของการเรียนและสอบให้กับน้อง ๆ
เราใช้คุกกี้ เพื่อคัดสรรสินค้าและบริการที่อาจตรงกับความชอบของท่าน ท่านสามารถอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว ได้ที่นี่