เรียนพิเศษ ติวสอบ ออนไลน์ กวดวิชาติวเตอร์อันดับ 1 | Megastudy

megastudy

หาวิชาที่ต้องการค่ะ

ข้อมูลการศึกษา

HOT News บทความที่คุณต้องการทั้งหมด
9 กติกาต้องรู้ ก่อนจัดอันดับในรอบ Admission
  • พี่ กระจก
  • 26.10.2565

 

เพื่อนๆหลายคนคงรู้ว่า ”ถ้าเรายิ่งทำคะแนนได้มาก ยิ่งเพิ่มโอกาสในการสอบติดมากขึ้น” แต่สำหรับการเลือกคณะ+สาขา+สถาบัน ที่สามารถเลือกได้มากถึง 10 อันดับ ใน TCAS รอบ3 Admission1&2 ปีนี้ ดูแค่ผลคะแนนที่เราทำได้อย่างเดียวคงไม่พอ จะติดหรือไม่ติดอาจมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย .. เลือกแล้วจะติดหรือไม่ติดขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง? มาดูกันครับ (แนะนำอ่าน 5 เรื่องควรรู้ก่อนสมัคร! TCAS รอบ3 Admission 1&2 : คลิก)

 

 

จะติดหรือไม่ติดขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?

 

1. คุณสมบัติ

 

● ปัจจัยนี้เป็นด่านตรวจแรกที่สำคัญที่สุด ถ้าเพื่อนๆมีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่คณะหรือมหาวิทยาลัยกำหนด ต่อให้ทำคะแนนได้สูงมากแค่ไหนก็ไม่สามารถสมัครได้ ในทางปฏิบัติอาจจะทำการสมัครยื่นเลือกเข้าไปในระบบได้ก็จริง แต่จะถูกตัดสิทธิ์ ไม่ผ่านการคัดเลือกอย่างแน่นอน (เสียเงินค่าเลือกอันดับ + เสียสิทธิ์การเลือกในอันดับนั้นไปฟรีๆ) ตัวอย่างคุณสมบัติที่กำหนด เช่น รับนักเรียนที่จบการศึกษา ปี 25XX / แผนการเรียน / ผลการตรวจสุขภาพ / ทักษะ ความสามารถตามที่คณะกำหนด / เพศ / ความสูง / น้ำหนัก / ดัชนีมวลกาย เป็นต้น

 

2. คะแนนสอบ

 

 ต้องมีผลคะแนนสอบทุกรายวิชาตามที่คณะ/สาขานั้นๆกำหนด ถ้าขาดไปเพียง 1 วิชา ก็ไม่สามารถสมัครได้เช่นกัน ในทางปฏิบัติอาจจะทำการสมัครยื่นเลือกเข้าไปในระบบได้ แต่จะถูกตัดสิทธิ์ ไม่ผ่านการคัดเลือกอย่างแน่นอน เช่นเดียวกันกับปัจจัยคุณสมบัติ ตัวอย่างผลคะแนนที่มักกำหนดให้ใช้ใน TCAS รอบ3 ได้แก่ ผลคะแนน GAT , PAT , วิชาสามัญ , O-NET , วิชาเฉพาะอื่นๆ ตามที่กำหนด เป็นต้น

 

3. จำนวนรับ

 

 ปัจจัยนี้เปลี่ยนแปลงทุกปี และอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาในช่วงเวลาเปิดคัดเลือก ขึ้นอยู่กับแผนการรับนักศึกษาของคณะหรือสถาบันนั้นๆ , การคัดเลือกในระบบ TCAS ถ้ามีที่นั่งว่างเหลือจากรอบ 2 รอบแรก 

อาจมีการปรับจำนวนรับเพิ่มในรอบ3 ตามดุลยพินิจของแต่ละมหาวิทยาลัย แน่นอนว่าถ้าปรับจำนวนรับเพิ่ม ยิ่งเป็นผลดีกับเพื่อนๆที่เลือกคณะ/สาขานั้นๆ ในทางตรงข้ามถ้าปรับลดจำนวนรับลง ก็อาจทำให้มีโอกาสติดน้อยลงเช่นกัน

 

4. คะแนนที่ใช้ในการคัดเลือก

 

 ถ้ามีการปรับเกณฑ์คะแนนที่ใช้ยื่นจากปีก่อน เช่น ปีก่อนให้ยื่น PAT7.1 มีค่าน้ำหนัก 100% แต่ปีนี้ปรับให้ยื่น PAT7.1 โดยมีค่าน้ำหนัก 50% และ PAT1 มีค่าน้ำหนัก 50% โอกาสติดของเพื่อนๆแต่ละคนก็อาจมีเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงแตกต่างกันออกไป ตามความสามารถหรือความถนัดในรายวิชาสอบนั้นๆ สรุปว่าถ้าเราถนัดหรือสามารถทำคะแนนได้ดีในรายวิชาที่ใช้คัดเลือกมากแค่ไหน เราก็จะยิ่งมีโอกาสติดเพิ่มขึ้นตามลำดับ ยิ่งถ้าวิชานั้นกำหนดค่าน้ำหนัก % สูง ในการคัดเลือกยิ่งเป็นผลดีกับคนที่เก่งวิชานั้นโดยตรง

 

5. การจัดอันดับ

 

 TCAS รอบ3 สามารถเลือกคณะ+สาขา+สถาบัน ได้สูงสุด 10 อันดับ โดยเลือกผ่านทาง https://student.mytcas.com (7 – 15 พ.ค.64) ระบบของ ทปอ. จะนำตัวเลือกของทุกคน ที่เลือกคณะ + สาขา + สถาบัน เดียวกันมาประมวลผล โดยระบบจะเรียงลำดับจากคนที่ได้คะแนนมากสุดไปจนถึงน้อยที่สุด โดยเริ่มพิจารณาไปทีละอันดับ เริ่มต้นจากการพิจารณาในอันดับที่ 1 ถ้าพิจารณาแล้ว ปรากฏว่าผ่านการคัดเลือก ระบบก็จะหยุดการพิจารณา (สอบติดในอันดับ 1 แล้วนั่นเอง) ตัวเลือกในอันดับ 2 เป็นต้นไปที่ได้เลือกไว้ ก็จะไม่นำมาพิจารณาอีก แต่ถ้าตัวเลือกในอันดับที่ 1 พิจารณาแล้ว ปรากฏว่าไม่ผ่านการคัดเลือกก็จะนำตัวเลือกในอันดับ 2 หรือในอันดับถัดไปมาพิจารณาต่อไปทีละอันดับ จนครบทุกอันดับ 

 พี่ๆเว็ปไซต์ทีแคสเตอร์แนะนำว่าคณะที่เพื่อนๆจะเลือก ตัวเราเองจะต้องมีความชอบ/อยากเรียน (ใกล้เคียงสิ่งที่อยากเรียน) ควรเลือกจัดไว้ในอันดับต้นๆ ไล่ลำดับความชอบลงมาทีละอันดับ และการเลือกคณะ/สาขานั้นๆควรเลือกอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง จากผลคะแนนสอบที่เราทำได้ / ตัวอย่างเลือกแบบนี้ใครติด : https://bit.ly/2NIvNbi (อ้างอิงและขอบคุณ ทปอ.)

 

6. สถิติคะแนนสอบต่างๆ

 

 สถิติในด้านต่างๆ เช่น คะแนนเฉลี่ย , ช่วงคะแนน , S.D. , คะแนนต่ำสุดและสูงสุดในรายวิชานั้นๆ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่พอจะบอกได้ว่า ศักยภาพคะแนนของเราอยู่ในจุดไหนของภาพรวมทั้งหมด แนะนำว่าให้ดูในช่วง 3 ปี ล่าสุด ก็เพียงพอแล้วครับ

 สถิติคะแนน GAT/PAT 4 ปีล่าสุด : คลิก

 สถิติคะแนน O-NET 4 ปีล่าสุด : คลิก

 สถิติคะแนน วิชาเฉพาะแพทย์ 6 ปีล่าสุด : คลิก

 สถิติคะแนน วิชาสามัญ 5 ปีล่าสุด : คลิก

 

7. สถิติคะแนนสูงสุด-ต่ำสุดที่สอบติด


 แนะนำให้พิจารณาที่ค่า ”คะแนนต่ำสุดที่สอบติด” เป็นหลัก ดูย้อนหลังไปอย่างน้อยสัก 3 ปี ข้อมูลเหล่านี้มักจะมีให้เปรียบเทียบใน TCAS รอบ3 รูปแบบเกณฑ์ Admission2 เกือบทุกสถาบัน แต่ถ้าเป็นรูปแบบเกณฑ์ Admission1 จะมีเปรียบเทียบเฉพาะบางสถาบันเท่านั้น (คลิก)

 ”คะแนนต่ำสุดที่สอบติด” เป็นค่าที่บอกได้อย่างคร่าวๆว่า เราใกล้เคียงกับการสอบติดปีก่อนๆมากแค่ไหน ถึงแม้คะแนนของเราจะมากกว่าปีก่อน แต่ไม่ได้การันตีว่าปีนี้จะติดชัวร์ เพราะถ้าปีนี้เปลี่ยนแนวหรือเกณฑ์การคัดเลือกไปมาก ข้อมูลส่วนนี้อาจช่วยเราได้ไม่มากนัก

 เพื่อนๆสามารถใช้งานระบบประเมินโอกาสสอบติด TCAS รอบ3 รูปแบบเกณฑ์ Admission2 ได้แล้วใน TCASter App เพียงแค่โหลด App

○ iOS > http://bit.ly/iOSTCASter

○ Android > http://bit.ly/AndroidTCASter

○ คะแนนสูงสุด-ต่ำสุด ย้อนหลัง 4 ปีล่าสุด : คลิก

 

8. เทรนด์การเลือกคณะ


 ผ่านไปแต่ละปี ความนิยมหรือกระแสในการเลือกคณะของแต่ละรุ่นก็เปลี่ยนไป แน่นอนว่าคณะที่มีความนิยมมาก อัตราการแข่งขันก็จะสูง คะแนนต่ำสุดที่สอบติดในบาง ม. ก็อาจเป็นคะแนนสูงสุดที่สอบติด ของบาง ม. ก็เป็นได้ แต่สุดท้ายทุกคนคงมีเป้าหมายคล้ายๆกัน คือ เราควรเลือกเรียนในสิ่งที่เราชอบและถนัด จบมามีงานทำ มีงานรองรับ และมีโอกาสเติบโตได้ในสายอาชีพที่เรียนจบ มีเงินเดือนที่พอจะเลี้ยงดูตัวเอง เลี้ยงดูครอบครัวเราได้ในอนาคต

 

9. ประสบการณ์ในการเลือก


 ไม่ว่าจะเป็น DEK64 หรือเด็กซิ่วหลายคนที่ยังกังวลหรือสับสน .. รู้คะแนนตัวเองแล้ว แต่ยังเอาไปคำนวณไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน TCAS รอบ3 Admission1&2 ไม่รู้ว่าจะเรียงอันดับอย่างไร หรืออันดับที่ตัวเองเรียงไว้แล้วไม่รู้ว่าจะรุ่งหรือร่วง..

 ไม่มั่นใจว่าปีนี้คะแนนจะเฟ้อหรือจะฝืด ทำให้ตัดสินใจไม่ถูก.. ถ้าหากกำลังเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็ ต้องให้ "จับมือจัดอันดับ” เข้าช่วย !!! : คลิก

 

[source : TCASter CHECKLIST 9 ข้อ! ก่อนเลือกคณะ TCAS รอบ3 .. จะติดหรือไม่ติดขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง? - TCASter​]  

พี่ กระจก
mentor

พี่ที่แสน perfect ของทาง mega ที่คอยอัพเดตข่าวสารใหม่ ๆ ให้น้องๆไม่ตกเทรน ได้ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด

  • #TCAS66
  • #TCAS รอบ Portfolio
  • #คะแนนทดสอบวิชาการ
  • #คะแนนทดสอบทางภาษา
  • #GSAT
  • #CU-TEP
  • #TU-GET
  • #BMAT
prev ถ้าติดรอบ1 รอบ2 แล้วสมัครรอบ3 ได้หรือไม่
next How To จัดอันดับ TCAS64 รอบ Admission ให้ปลอดภัย