💖สวัสดีค่ะ ทุกคน นักเรียนม. ปลายและเด็กซิ่วทุกคนน่าจะ
กังวลเกี่ยวกับการค้นหาเส้นทางอาชีพของตัวเองมากแน่เลย
ดังนั้นวันนี้พี่เมก้าจะมานำเสนอคอลัมน์เกี่ยวกับการค้นหาเส้นทางอา
ชีพของนักเรียนม.ปลาย!
(พี่เมก้าได้คิดและค้นคว้าเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพมาเยอะเหมือนกันนะ!)
มีอาชีพตั้งมากมายบนโลก
แล้วจะหาและเลือกอาชีพที่ชอบได้อย่างไร? ไปดูกันเลย🥰
คีย์เวิร์ดหลักๆ 3 คำมีดังนี้!
1.
ความชอบ (ความถนัด)
2.
การอ่านหนังสือ ดูคลิปวิดีโอ (ข้อมูล, ประสบการณ์ทางอ้อม)
3.
งานอาสาสมัคร (ประสบการณ์ตรง)
1. ความชอบ (ความถนัด)
สิ่งแรกคือการวิเคราะห์ความชอบของตัวเอง (ความถนัด)
เพื่อค้นหาเส้นทางอาชีพมี
3 วิธีจะมาแนะนำ:
1) ทดสอบความสนใจในอาชีพ (ความถนัด)
ในเว็บไซต์ Google มีแบบทดสอบความถนัดทางอาชีพอยู่หลากหลายประเภท!
แนะนำให้น้องๆ ไปลองทำแบบทดสอบจากหลายๆ
เว็บไซต์ อยากให้ลองวิเคราะห์ตัวเองว่ามีความสนใจในอาชีพไหน,
ถนัดอะไร, ทำอะไรแล้วสบายใจและภูมิใจ
ที่สุดและสามารถรวบรวมผลลัพธ์จากการทำแบบทดสอบเกี่ยวกับอาชีพ,
เช่น แบบทดสอบความสนใจ, แล้วถ่ายรูปและบันทึกไว้ในอัลบั้มก็ได้
อยากให้คิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่จะทำให้เราได้พิจารณา
ความชอบของตัวเองมากกว่าที่จะ
เชื่อในผลลัพธ์ของแบบทดสอบความถนัดทางอาชีพอย่าง
ไม่มีเงื่อนไขและคิดว่า ‘ฉันจะต้องเดินตามเส้นทางนี้เท่านั้น!’
เพราะนี่เป็นเพียงก้าวแรกของการค้นหาเส้นทางอาชีพที่เหมาะกับตัวเอง!
พี่เมก้าชอบช่วยเหลือผู้คนและสังคม
จึงคิดว่าอาชีพพยาบาลน่าจะเหมาะกับ
พี่ในผลลัพธ์ของการทำแบบทดสอบความถนัด
ทางอาชีพมักจะได้ S (ชอบเข้าสังคม)เป็นอันดับแรกเสมอ และมักจะ
แนะนำเป็นอาชีพที่ช่วยเหลือผู้คนโดยตรงเสมอด้วยค่ะ
ผลการสำรวจความถนัดทางอาชีพจะ
เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยให้เราได้พิจารณาเส้นทางอาชีพเราค่ะ
※ คำแนะนำจากพี่เมก้า: ลองทำแบบทดสอบ
MBTI
แล้วเอาผลลัพธ์อาชีพที่ได้จากการทำแบบทดสอบมาอ้างอิง
จะสามารถค้นพบตัวเองได้ง่ายด้วยการทำแบบทดสอบสนุกๆ
ที่หลากหลาย
2) เขียนลิสต์ 'ช่วงเวลาที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขที่สุด
(ปลื้มใจ, สบายใจ, ภูมิใจ, พอใจ เป็นต้น)' (ประมาณ 10 รายการ)
ถ้าจะให้แนะนำส่วนหนึ่งจากลิสต์ที่พี่มีก็คือตอนที่พ่อแม่ของพี่เกิดอาการปวดท้อง
พี่ได้ทำโจ๊กให้ท่านและดูแลท่านอยู่ข้างๆ พี่รู้สึกมีความสุขและภูมิใจมาก
เวลาที่ไปอาสาสมัครให้บริการทางการ แพทย์ฟรีกับผู้สูงอายุและ
คนพิการที่ใช้ชีวิตยากลำบากในชุมชนพี่ก็รู้สึกภูมิใจมากๆ
พอได้เขียนลิสต์แบบนี้แล้วก็รู้สึกว่า ‘อ๋อ ฉันมีความสุขเวลาที่ดูแลผู้อื่น
ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดให้ผู้อื่นและช่วยเหลือพวกเขาสินะ!’
ดังนั้นเลยได้ตั้งปณิธานไว้ว่า
‘จะใช้ชีวิตที่ช่วยรักษา ฟื้นฟู, และมอบความสุขให้กับผู้คน’
พี่เลยได้เลือกสาขาที่เกี่ยวกับสาขาการแพทย์
เพราะฉะนั้นให้หาก่อนว่าอะไรที่เป็นความสุขของ
ตัวเองและหลังจากที่กำหนดเป้าและทิศทางของตัวเองแล้ว
ค่อยคิดหาทางทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
3) ถามคนรอบข้างที่รู้จักเราดีเกี่ยวกับจุดแข็งของเรา
สิ่งที่เราสนใจ และสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเราเก่ง
(ครอบครัว, เพื่อนสนิท, ครูประจำชั้น
เป็นต้น)
บางทีคนรอบข้างของน้องๆ
(ที่เป็นคนใกล้ชิด) อาจจะรู้จักจุดแข็ง
และจุดอ่อนของน้องๆ
ที่น้องอาจไม่เคยนึกถึงก็ได้
ดังนั้นการถามคนอื่นๆ เช่นครอบครัว,
เพื่อนสนิท, และครูประจำชั้นเกี่ยวกับจุดแข็งของตัวเอง
ความสนใจ เก่งด้านใด และขอความคิดเห็นจากคนรอบข้าง
จะเป็นตัวช่วยในการค้นหาเส้นทางอาชีพได้
(พี่แนะนำให้น้องๆ นำสิ่งที่คนรอบข้างบอกเป็นข้อมูลอ้างอิง
แล้วตัดสินใจด้วยตัวเอง)
2. การอ่าน2. วิดีโอ (ข้อมูล2. การอ่าน, , ประสบการณ์ทางอ้อม)
- ประสบการณ์ในการทำงานทางอ้อม การใช้ชีวิต
ประสบการณ์ทางอ้อมของสาขาอาชีพอื่นๆ
ที่สนใจ
ถ้าลองอ่านหนังสือเกี่ยวกับบุคคลที่ทำอาชีพที่ตนเองสนใจ
ก็จะสามารถได้รับประสบการณ์ทางอ้อมจากรุ่นพี่เหล่านั้นได้
อาจทำให้รู้สึกได้ว่าชีวิตจริงและสิ่งที่ตัวเองคิดไม่เหมือนกัน
และได้รับประสบการณ์ทางอ้อมมาอีกด้วย นอกจากนี้
เมื่อได้อ่านหนังสือหลายๆ
เล่ม จะรู้สึกได้ว่าเรื่องราวที่รุ่นพี่
(ตัวเอกในหนังสือ)
ได้เจอ 'โอ้, เรื่องนี้เหมือนที่ฉันเจอเลย...!' หรือ 'เขาต่างจากฉันมากเลยนะเนี่ย'
ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่าตัวเองเหมาะกับงานนี้หรือไม่
(ในกรณีของพี่ บุคคลที่ทำงานด้านการแพทย์หลายคนที่พี่อ่านมีความคล้ายกันกับพี่
และรู้สึกว่าจุดที่ทำให้มีความสุข, วิธีคิด,
และมุมมองชีวิตนั้นคล้ายคลึงกัน
ทำให้มั่นใจมากขึ้นในเส้นทางอาชีพนี้)
หากหาดูวิดีโอ, การสัมภาษณ์, สารคดี, Q&A, วิดีโอแนะนำสาขา, vlog เป็นต้น
ก็จะสามารถช่วยในการค้นหาเส้นทางอาชีพได้เช่นกัน
(น้องๆ สามารถค้นหาได้โดยการค้นหาชื่อสาขาหรืออาชีพนั้นๆ บน YouTube)
พี่เองก็ได้หาดูวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพที่อยากทำมากมาย
และมันช่วยให้พี่สามารถชัดเจนกับเส้นทางอาชีพของตัวเองได้มากขึ้น
นอกจากนี้เมื่อพี่เกิดความสนใจเกี่ยวกับอาชีพอื่นขึ้นมา
พี่ก็ลองค้นหาวิดีโอเกี่ยวกับอาชีพเหล่านั้นมากมาย
เมื่อได้ดูแล้วก็ได้รู้ว่าชีวิตที่จินตนาการและชีวิตจริงนั้นแตกต่างกันมาก
ทำให้ได้รู้ว่าตัวเองเหมาะกับอาชีพนั้นมากแค่ไหนและ
ทำให้จัดระเบียบความคิดได้ง่ายมากขึ้น
3. งานอาสาสมัคร (ประสบการณ์)
หากมีโอกาสการได้ลองไปทำงานอาสาสมัครเกี่ยวกับอาชีพนั้นๆ
เพื่อค้นหาเส้นทางอาชีพก็เป็นเรื่องที่ดี ในกรณีของพี่คือ
พี่ได้ทำงานอาสาสมัครให้บริการทางการแพทย์ฟรีให้กับผู้ที่ต้องการในชุมชนนานถึงสา
มปีในช่วงเรียนมัธยมปลาย
ขณะที่ทำงานอาสาสมัครนี้
ก็พบว่าการช่วยเหลือผู้ป่วยโดยตรง แบ่งปันเรื่องราว
และให้กำลังใจเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจและมีความสุขมาก
เพราะรู้สึกได้ทันทีเมื่อได้ทำงานอาสาสมัคร
มันเป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้พี่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอาชีพนี้เหมาะกับตัวเองหรือ
ไม่และต้องการมันหรือไม่
ในจินตนาการของพี่
พี่เคยคิดว่าการทำงานด้านการแพทย์มันเป็นเรื่องยากและลำบาก
แต่เมื่อได้พบผู้คนและทำงานอาสาสมัครทางการแพทย์จริงๆ,
ก็รู้สึกมีความสุขเหมือนได้รับรางวัลมากเลย
(ดังนั้นพี่เลยได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองจินตนาการเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพนั้นและ
สิ่งที่ได้มาประสบและรู้สึกจริงๆ
มันต่างกันผ่านการทำงานอาสาสมัคร)
😘สาขาที่พี่สนใจตอนที่เรียนอยู่คือการศึกษา, ดนตรี, สิ่งแวดล้อม, สิทธิมนุษยชน,
และการแพทย์ (การแพทย์/การพยาบาล)
ตอนนี้หลังจากผ่านกระบวนการค้นหาเส้นทางอาชีพ
พี่ได้ตัดสินใจเลือกเรียนพยาบาล
แต่ก็คิดว่าเราสามารถนำสาขาที่ฝันไว้หลายๆ
สาขามาใช้ในเส้นทางอาชีพของตัวเองได้
เช่น (การศึกษา)
การให้การศึกษาด้านการแพทย์/สุขภาพ, (ดนตรี)
การให้ดนตรีเป็นของขวัญแก่ผู้ป่วย, (สิ่งแวดล้อม, สิทธิมนุษยชน)
การแก้ไขปัญหาทางด้านโครงสร้าง
แม้น้องจะตัดสินใจเลือกเรียนในสาขาใดสาขาหนึ่ง
แต่ก็สามารถคิดหา
ไอเดียที่ประยุกต์ใช้สิ่งที่น้องสนใจเข้ากับเส้นทางอาชีพของตนเองได้เช่นกัน!
ครูพี่ใจดี
mentor
ครูที่มีข่าวสารความรู้ในเรื่องของการสอบ TCAS มากที่สุด