ไม่ติด Admission รอบ 3 แล้วทำยังไงต่อ
สำหรับประเทศไทย ได้เริ่มมีระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2504 เริ่มแรกเป็นระบบ Entrance พัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ
จนเป็น Admission และต่อยอดจนมาเป็นระบบ TCAS ในปัจจุบัน ซึ่งระบบการสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยของแต่ละระบบก็มีข้อ
แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นในระบบ Entrance เป็นการเลือกครั้งเดียว สอบติดคือติดเลย ไม่ได้มีการเผื่อเลือกเอาไว้ ถ้าหากสอบ
ไม่ติดก็รอสมัครใหม่ในปีถัดไป ซึ่งต่างจากระบบ TCAS และ Admission ที่เปิดโอกาสมากขึ้น นักเรียนสามารถสมัครสอบได้หลาย
รอบ โอกาสสอบติดจึงมีมากขึ้น แต่บางคนสมัครสอบกี่รอบก็ยังไม่ติดซักที โดยเฉพาะรอบ 3 Admission ที่เป็นรอบที่หลายคน
คาดหวัง แต่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้สับสนว่าต้องทำยังไงต่อไป วันนี้พี่ mega เลยจะมาแนะแนวแนวทางการรับมือสอบ
รอบ 3 ไม่ติด เผื่อจะเป็นแนวในการตัดสินใจของน้อง
ยื่นรอบ 4 รับตรงอิสระ
อย่างที่น้อง ๆ ทราบกันดีว่าระบบการสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยปี 66 อย่าง TCAS แบ่งการรับสมัครออกเป็น 4 รอบ คือ
รอบแฟ้มสะสมผลงาน รอบโควต้า รอบรับตรงและรอบรับตรงอิสระ ซึ่งถ้าหากน้อง ๆ ไม่ติดรอบ 1 ถึง รอบ 3 ก็ไม่ต้องกังวล เพราะ
เรายังมีเหลืออีก 1 รอบ นั้นคือรอบ 4 รับตรงอิสระ ที่จะเป็นอีกหนึ่งความหวังในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของน้อง ๆ ซึ่งน้อง ๆ
สามารถติดตามการรับสมัครรอบ 4 รับตรงอิสระได้จากเว็บไซต์ของคณะ มหาวิทยาลัยที่น้องสนใจ ซึ่งน้อง ๆ สามารถยื่นสมัครได้
หลายที่ ผ่านการคัดเลือกหลายที่ แต่ต้องมายืนยันสิทธิ์เพียงที่เดียวเท่านั้น ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้น้อง ๆ สามารถเลือกได้
อย่างเต็มที่ โดยรอบ 4 รับตรงอิสระ จะเปิดให้รับสมัครตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม ถึง 9 มิถุนายน 2566 สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะ
ยื่นรอบนี้ควรเตรียมข้อมูล ศึกษาระเบียบการรับสมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยให้ดี จะได้เพิ่มโอกาสสอบติดของเรา
สมัครเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน
มหาวิทยาลัยของไทยไม่ได้มีดีแค่ของรัฐบาล แต่มหาวิทยาลัยเอกชนก็มีความเก่งไม่แพ้กัน แถมยังมีคู่แข่งน้อยกว่า
มหาวิทยาลัยของรัฐอีกต่างหาก ซึ่งโอกาสที่จะสามารถเข้าเรียนที่นี่ได้คือสูงมาก แต่ก่อนอื่น น้อง ๆ ต้องค้นหาตัวเองให้เจอแบบ
จริง ๆ ก่อนว่าตัวเองอยากเป็นอะไร อยากจะประกอบอาชีพอะไรในอนาคต เมื่อเลือกได้แล้วก็ต้องหาข้อมูลว่าคณะที่เราสนใจ
อยากจะเข้าเรียน มีที่ไหนเปิดรับสมัครบ้าง รวมถึงมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงในคณะที่ตัวเองสนใจ
GAP YEAR
เป็นแนวทางสุดท้ายที่พี่ mega อยากแนะนำ GAP YEAR เป็นการหยุดเรียนเพื่อไปค้นคว้าหาตัวเอง และเตรียมความพร้อมใน
การสอบเข้าคณะ มหาวิทยาลัยที่ตนเองต้องการ บางคนเตรียมตัวสอบทั้งปีเพื่อจะเอาคะแนนสอบให้สูงตามที่ต้องการ บางคนออก
ไปค้นหาตัวเอง เพราะ ตัวเองยังไม่แน่ใจว่าคณะที่เคยสมัครไว้จะใช่สำหรับเราไหม การหยุดเพื่อค้นหาตัวเอง เตรียมความพร้อม
ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ