ความสำคัญของเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์ กับคนในยุคปัจจุบัน
ประวัติศาสตร์ คือการค้นพบเรื่องราวต่างๆในอดีต ไม่ว่าจะเป็นลักษณะความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม หรือการเคารพบูชาของคนในยุคสมัยต่างๆ ทำให้มีความต่อเนื่องมาจนถึงในยุคปัจจุบัน ถ้าจะถามว่าความสำคัญของเรื่องราวใน ยุคสมัยในอดีต มีความสำคัญต่อคนในยุคปัจจุบันหรือไม่ จริงๆต้องบอกว่ามีความสำคัญ และสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ส่งผลต่อการพัฒนาในอนาคต เคยได้ยินหรือไม่ว่าสิ่งต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นในอดีต มีการต่อยอดมาจนถึงในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น การก่อตั้งโรงเรียนในสมัยอดีต และได้มีการพัฒนาระบบการเรียนการสอน รวมไปถึงหลักสูตรต่างๆ ให้ทันต่อยุคสมัย จนมาถึงในยุคปัจจุบันนี้ก็ยังคงต้องพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้โรงเรียนนี้ยังคงมีอยู่ต่อไปจนถึงอนาคต
ดังนั้นถ้าเราจะถามว่า ความสำคัญของเรื่องราวในประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่มนุษย์เราควรที่จะเรียนรู้หรือไม่ ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ควรจะศึกษาเรียนรู้เอาไว้ จะได้เข้าใจถึงความเป็นมาของคนรุ่นก่อน ว่ามีลักษณะการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่อย่างไร เพราะคนรุ่นก่อนเรานั้น ถือว่าเป็นบรรพบุรุษของเรานั่นเอง
ทำไมเราต้องเรียนรู้เรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์
เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเราถึงต้องเรียนรู้เรื่องราวต่างๆทาง ประวัติศาสตร์ ทั้งในรายวิชาของสังคมศึกษา หรือแม้แต่ในรายวิชาภาษาไทย รวมไปถึงในรายวิชาอื่น ๆ ก็มีประวัติศาสตร์ จนได้มีการแต่งตั้งบิดาแห่งประวัติศาสตร์ขึ้น ซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกในศตวรรษที่ 5 แล้วต่อมาก็ยังมีนักประวัติศาสตร์อีกมากมายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งของไทยและต่างชาติ เพราะมีการสืบค้นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้ได้รู้จักถึงความเป็นมาและข้อมูลที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต ผ่านโบราณวัตถุ โบราณสถาน หรืออาจจะเป็นจดหมายเหตุที่ถูกบันทึกไว้จากคนในอดีตนั่นเอง และมีเหตุผลมากมายที่เราจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เรื่องราวของ ยุคสมัยในอดีต ไม่ว่าจะเป็น การเรียนรู้ในประวัติศาสตร์จะช่วยให้เราเข้าใจโลกมากขึ้น , เข้าใจในประเพณีวัฒนธรรม , เข้าใจถึงกฎการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งจะทำให้เรามีการตัดสินใจที่รอบคอบระวังแผนการใช้ชีวิตได้อย่างเท่าทันเหตุการณ์
สำหรับการเรียนรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ น้อง ๆ สามารถที่จะค้นคว้าความรู้ได้ทั้งที่โรงเรียน และนอกโรงเรียน ซึ่งถ้าน้อง ๆ กำลังมองหาช่องทางการเรียนรู้เพิ่มเติมทักษะในด้านต่าง ๆ อยากให้ลองเปิดใจมาเรียนรู้กับพี่ ๆ ใน megastudy ศูนย์รวมความรู้ที่มีทีมงานผู้เชี่นวชาญ พร้อมที่จะผลักดันความรู้ให้กับน้อง ๆ ได้อย่างเต็มที่ มาลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยรูปแบบการเรียนรู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางวิชาการ หรือการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์
ยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ ใช้สิ่งใดเป็นเกณฑ์ ในการแบ่งยุคสมัย
รู้หรือไม่ว่าการแบ่ง ยุคสมัยในอดีต ใช้สิ่งใดเป็นกฎเกณฑ์บ้าง ตามที่ ประวัติศาสตร์ ได้บันทึกเรื่องราวเอาไว้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นมีการถูกจดบันทึกไว้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการจารึกบนหินศิลา การจดบันทึกลงจดหมายเหตุบ้านเมือง รวมไปถึงคำบอกเล่าสืบต่อกันมา ซึ่งถ้าจะถามถึงเกณฑ์การแบ่งยุคสมัยของนักโบราณคดี ก็จะมีการกำหนดเทคนิควิธีการศึกษาค้นคว้าผ่านเครื่องมือเครื่องใช้ เช่นในยุคหินและยุคโลหะ นั่นเอง
นอกจากนี้การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ยังสามารถแบ่งตามการดำรงชีพและลักษณะทางสังคมได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นสมัยชุมชนล่าสัตว์ สมัยของหมู่บ้านเกษตรกรรม รวมไปถึงสมัยสังคมเมือง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละยุคสมัยนั้นมีลักษณะการดำรงชีพอย่างไรเป็นความโดดเด่น ก็จะสามารถนำมาเป็นกฎเกณฑ์ในการแบ่งยุคสมัยได้
2 ลักษณะการแบ่งยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ ที่น้อง ๆ ควรรู้
มาเจาะลึกเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์ ของการแบ่งยุคสมัย ในแบบของนักโบราณคดี ซึ่ง ยุคสมัยในอดีต ที่นักโบราณคดีได้กำหนดเอาไว้เป็นเกณฑ์การแบ่ง ก็คือประวัติศาสตร์ในยุคหิน และยุคสำริดอย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ซึ่งอยู่ในช่วงของยุคก่อนประวัติศาสตร์ เป็นยุคสมัยที่มนุษย์ยังไม่รู้จักที่จะประดิษฐ์ตัวอักษร เพื่อใช้ในการจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ และนักโบราณคดีทำการศึกษาค้นคว้าผ่านหลักฐานโบราณคดีต่างๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องประดับ หรือภาพวาดตามผนังในถ้ำ รวมไปถึงยังแบ่งตามระดับความเจริญก้าวหน้าในการใช้ชีวิตความเป็นอยู่อีกด้วย เราลองมาดูกันว่าในแต่ละยุค แสดงให้เห็นถึงอะไรได้บ้าง
1. ประวัติศาสตร์ ยุคหิน จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ยุคย่อย ๆ คือยุคหินเก่า ยุคหินกลาง และยุคหินใหม่
- ยุคหินเก่า เป็นยุคที่มีอายุโดยประมาณ 2 ล้านปี ก่อนคริสตกาล ลักษณะของมนุษย์ในยุคหินเก่าจะเน้นการพึ่งพาธรรมชาติเป็นอย่างมาก และมีการดำรงชีวิตอยู่จากการเก็บผลไม้รวมไปถึงการล่าสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหาร มีการอาศัยอยู่ตามถ้ำและเริ่มที่จะรู้จักการใช้ไฟในการหุงต้มอาหารแล้ว
- ยุคหินกลาง จะมีอายุประมาณ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งมนุษย์ในยุคนี้จะเริ่มที่จะออกมาใช้ชีวิตภายนอกถ้ำมากขึ้น และมีการประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหิน ให้มีความปราณีตสวยงามมากขึ้น รวมไปถึงยังมีอาวุธที่ใช้ในการล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารด้วย
- ยุคหินใหม่ มีอายุประมาณ 4000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งมนุษย์ในยุคหินใหม่จะเริ่มมีการรู้จักการทอผ้า เพื่อใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม และมีการทำเครื่องประดับจากดินเผา และหิน รวมไปถึงในยุคนี้เริ่มมีการทำเกษตรกรรมมากขึ้น และใช้ชีวิตอยู่ภายนอกถ้ำอย่างสมบูรณ์
2. ประวัติศาสตร์ ยุคโลหะ สามารถที่จะแบ่งย่อยออกเป็น 2 ยุค คือยุคสำริดและยุคเหล็ก
- ในยุคสำริดจะมีการเริ่มต้นแบ่งภูมิภาคเป็นส่วนต่างๆ การผลิตเครื่องมือเครื่องใช้มาจากแร่ทองแดงกับแร่ดีบุก เนื่องจากกรรมวิธีในการทำสัมฤทธิ์ค่อนข้างมีความยุ่งยาก จึงได้เกิดกลุ่มอาชีพสร้างเครื่องมือเครื่องใช้จากสำริดขึ้นในยุคสมัยนี้
- ยุคเหล็ก เป็นยุคที่เริ่มมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น มนุษย์มีการเรียนรู้ในการหลอมโลหะ ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ที่แข็งแกร่งและทนทานกว่าเดิม จนสามารถที่จะทำเป็นอาวุธใช้ป้องกันตัวเองได้ และเริ่มมีการขยายอาณาเขตสังคมความเป็นอยู่กว้างมากยิ่งขึ้น นั่นเอง
อย่างที่เราได้บอกไปแล้วข้างต้นว่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จะส่งต่อและมีความสัมพันธ์สืบเนื่องมาจนถึงคนในยุคปัจจุบัน และเราได้เห็นแล้วว่าวิวัฒนาการในแต่ละยุคสมัยถูกพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จากการเรียนรู้ของมนุษย์และสังคมในยุคปัจจุบันนั้นๆ รวมถึงทุกวันนี้เทคโนโลยีและการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันก็ยังคงได้รับการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าเรื่องราวในวันนี้ก็จะกลายเป็นอดีตของวันพรุ่งนี้ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไปเช่นเดียวกัน
พี่ mega
mentor
พี่ๆคอยให้คำปรึกษาพร้อมแก้ไขปัญหาในทุกเรื่องของการเรียนและสอบให้กับน้อง ๆ