สวัสดีค่ะน้องๆ ถ้าพูดการสมัครรอบ Admission หลายคนก็คงจะคุ้นหู หรือคุ้นเคยกับการสมัครรอบนี้เป็นอย่างดี เพราะมีการใช้ต่อเนื่องมานานหลายปี และถึงแม้ว่าปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการรับสมัครไปบ้าง มีการเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น Admission 2 แต่ concept การรับสมัครยังคงเหมือนเดิม นั่นก็คือ เกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกในกลุ่มสาขาวิชาเดียวกันจะเหมือนกันทุกมหาวิทยาลัย เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยจะต้องใช้เกณฑ์จากที่ส่วนกลางกำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งจะประกอบไปด้วย GPAX 20% O-NET 30% และ GAT และ/หรือ PAT 50%
เช็กด่วน! ก่อนจะยื่น Admission 2 ต้องรู้ ต้องระวังอะไรบ้าง?
ข้อควรระวังก่อนยื่นสมัคร TCAS64 Admission 2
แล้วด้วยความที่มีเกณฑ์การรับสมัครที่เหมือนๆ กันนี่ล่ะ จึงทำให้ในแต่ละปีมีน้องๆ พลาดการพิจารณาคัดเลือก หรือไม่ผ่านการคัดเลือก แถมปีนี้มีการรวมการรับสมัครเข้ากับรอบรับตรงร่วมกัน หรือ Admission 1 ด้วย วันนี้พี่แนนนี่ก็เลยรวบรวมเงื่อนไขต่างๆ นอกเหนือจากเกณฑ์การรับสมัครทั้ง 9 กลุ่ม 18 รูปแบบ ที่จะต้องตรวจสอบเป็นหลักแล้ว มาดูกันว่าน้องๆ จะต้องตรวจสอบ และระมัดระวังอะไรบ้างก่อนยื่นสมัครรูปแบบ Admission 2
วุฒิการศึกษา/แผนการเรียน
โดยส่วนมากในการรับสมัครผ่านรูปแบบ Admission 2 จะเปิดรับสมัครน้องๆ ในทุกวุฒิการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสายสามัญ สายอาชีพ หรือวุฒิเทียบเท่าอื่นๆ ก็สามารถสมัครได้หมด แต่ก็ยังคงมีหลายคณะ หลายสาขาวิชาที่กำหนดแผนการเรียนของผู้สมัครเอาไว้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เป็นการกำหนดวุฒิการศึกษาไปด้วยในตัว ดังนั้นน้องๆ จะต้องตรวจสอบระเบียบการให้ดีก่อนทำการสมัครว่า สาขาวิชาที่สนใจเปิดรับวุฒิการศึกษาอะไร หรือแผนการเรียนไหนบ้าง โดยรูปแบบการระบุแผนการเรียนจะมี 2 ลักษณะ คือ
● บอกตรงๆ เช่น แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ศิลป์-คำนวณ ศิลป์-ภาษา
● บอกเป็นจำนวนหน่วยกิตของแต่ละกลุ่มสาระฯ เช่น กลุ่มสาระฯ วิชาวิทยาศาสตร์ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต กลุ่มสาระฯ คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต เป็นต้น
พื้นฐานวิทยาศาสตร์/พื้นฐานศิลปศาสตร์
ในระเบียบการบางของมหาวิทยาลัยจะมีระบุไว้ว่า พื้นฐานวิทยาศาสตร์ หรือพื้นฐานศิลปศาสตร์ ทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิดว่า ทางคณะ ทางสาขาวิชากำหนดแผนการเรียนของผู้สมัครไว้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เป็นแค่รูปแบบเกณฑ์การคัดเลือกเท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะเห็นระบุไว้กับคณะทางศิลป์ อย่างเช่น คณะอักษรศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ เป็นต้น โดยพื้นฐานวิทย์ ก็จะเป็นการใช้คะแนน GAT + PAT 1 ส่วนพื้นฐานศิลป์ จะเป็น GAT ล้วน หรือ GAT + PAT 7 มากกว่า ดังนั้นไม่ว่าน้องๆ จะจบจากแผนการเรียนอะไร แต่มีคะแนนครบตามที่กำหนดไว้ ก็สามารถสมัครได้หมด (*ถ้าคณะไม่ได้กำหนดแผนการเรียนไว้)
GPAX
อย่างที่ทราบกันดีกว่า เกณฑ์การรับสมัคร Admission 2 จะมี GPAX เป็นองค์ประกอบการคัดเลือก 20% แต่ไม่ใช้แค่องค์ประกอบเท่านั้น เพราะจากที่พี่แนนนี่ได้สำรวจระเบียบการรับสมัคร Admission 2 ในปีนี้ มีหลายๆ มหาวิทยาลัย หลายๆ สาขาวิชากำหนด GPAX หรือเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำ เอาไว้ด้วย (เช็กคณะที่กำหนด GPAX คลิก) รวมไปถึงบางสาขาวิชามีการกำหนดเกรดเฉลี่ยสะสมในบางกลุ่มสาระวิชาไว้ด้วย เช่น คณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล กำหนด GPA กลุ่มสาระฯ วิชาวิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, สังคมศึกษา แต่ละกลุ่มฯ ไม่ต่ำกว่า 3.00 ดังนั้นเช็กข้อมูลให้ละเอียดๆ
คะแนนขั้นต่ำ
เรียกได้ว่าทุกองค์ประกอบในการคัดเลือกในรอบนี้ ล้วนแต่มีสิทธิ์ที่จะถูกกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำทั้งสิ้น คือนอกจาก GPAX หรือ GPA ที่จะมีการกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ คะแนน O-NET คะแนน GAT และคะแนน PAT แต่ละวิชาก็อาจจะถูกกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำเอาไว้ โดยจะมีการกำหนดใน 2 ลักษณะ คือ
● กำหนดเป็นคะแนนขั้นต่ำ จากคะแนนเต็ม เช่น GAT ไม่ต่ำกว่า 150 คะแนน จากคะแนนเต็ม 300 หรือ O-NET วิชาภาษาอังกฤษ ไม่ต่ำกว่า 75 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 เป็นต้น
● กำหนดเป็น % เช่น PAT 2 ไม่ต่ำกว่า 30% จากคะแนนเต็ม 300 คะแนน หรือคิดเป็น 90 คะแนน หรือ GAT ไม่ต่ำกว่า 50% หรือ 150 คะแนน
เกณฑ์ขั้นต่ำรวม
การคิดคะแนนในรูปแบบ Admission 2 นี้ จะคิดเป็นฐานคะแนน 30,000 โดยมี GPAX เต็ม 6,000 คะแนน O-NET เต็ม 9,000 คะแนน และ GAT/PAT เต็ม 15,000 คะแนน ซึ่งนอกจากคะแนนแต่ละวิชาที่แต่ละสาขาวิชาจะกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำได้แล้ว บางมหาวิทยาลัย ยังกำหนดคะแนนขั้นต่ำของฐาน 30,000 เอาไว้ด้วย หมายความว่า ถ้าน้องๆ มีคะแนนครบทุกวิชา หรือคะแนนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำแต่ละตัวที่กำหนดไว้ แต่คะแนนรวมไม่ถึงขั้นต่ำที่กำหนดไว้ ก็สมัครไม่ได้ เช่น คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำหนดคะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 19,500 คะแนน หรือคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ กำหนดคะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 20,000 คะแนน เป็นต้น
คุณสมบัติอื่นๆ
นอกจากเกณฑ์คะแนนต่างๆ ที่จะต้องตรวจสอบให้ดีแล้ว น้องๆ จะต้องเช็กคุณสมบัติอื่นๆ ที่ทางคณะ/สาขาวิชากำหนดไว้ด้วย เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง ค่าดัชนีมวลกาย สุขภาพจิต สุขภาพร่างกาย โรคต้องห้ามต่างๆ หรือความสามารถทางภาษาอื่นๆ เป็นต้น ถึงแม้ว่าคะแนนจะสูงมาก แต่ถ้าน้องไม่มีคุณสมบัติในส่วนนี้ตามที่กำหนดไว้ ก็จะทำให้น้องๆ ไม่ผ่านการคัดเลือกในภายหลังได้
นอกจากตารางองค์ประกอบที่แต่ละมหาวิทยาลัยประกาศออกมาแล้ว น้องๆ จะต้องตรวจสอบระเบียบการฉบับเต็ม หรือประกาศฉบับอื่นๆ ให้ครบทุกฉบับด้วย เพราะบางมหาวิทยาลัยอาจจะประกาศคุณสมบัติผู้สมัคร และคุณสมบัติเฉพาะสาขาวิชาที่ระบุเงื่อนไขต่างๆ ข้างต้นแยกเอาไว้คนละฉบับ รวมไปถึงระมัดระวังในการอ่านข้อมูล และติดตามข่าวสาร
[source : Dek-D https://www.dek-d.com/tcas/57182/]
